Death Note 2 The Last Name | อวสานสมุดมรณะ ภาค 2 (2006)
เราเชื่อว่าเด็กๆยุค 90s-2000s จะต้องโตมาแล้วรู้จักโชเน็งจัมป์กันแน่นอน โชเน็งจัมป์เป็นหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ที่ขายดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น[1] ยอดจำหน่ายมากกว่า 3 ล้านเล่ม โชเน็งจัมป์จำหน่ายรายสัปดาห์ในประเทศญี่ปุ่น และจำหน่ายรายเดือนในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปยุโรปตลาดเป้าหมายหลักของโชเน็งจัมป์รายสัปดาห์อยู่ที่เด็กผู้ชาย (โชเน็ง แปลว่า เด็กชาย หรือผู้ชาย) เนื้อหาภายใน เว็บดูหนังออนไลน์ หนังสือการ์ตูนจะเป็นลักษณะการต่อสู้ และการผจญภัย โดยตัวละครหลักจะมีพลังพิเศษต่างๆ โชเน็งจัมป์เริ่มตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2511 โดยบริษัทชูเอชะ เคยมียอดจำหน่ายสูงถึง 6 ล้านเล่ม โชเน็งจัมป์ได้มีนำมาจำหน่ายภายใต้ชื่อโชเนนจัมป์ ในสหรัฐอเมริกา เยอรมัน สวีเดน นอร์เวย์ และการ์ตูนหลายเรื่องภายในเล่มได้มีการนำมาแปลและจำหน่ายในหลายประเทศในทวีปเอเชีย รวมทั้งประเทศเกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน และไทย ‘วันนี้เราก็อยากแนะนำนำภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากการ์ตูนใน โชเน็งจัมป์ กับภาพยนตร์เรื่อง Death Note 2 The Last Name อวสานสมุดมรณะ ภาค 2 จะสนุกจะเดือดขนาดไหนต้องไปดูกัน
Death Note 2 The Last Name อวสานสมุดมรณะ ภาค 2 เป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นแนว อาชญากรรม Crime เมื่อยางามิ ไลท์ (คิระ) ได้เข้ามาในการสืบสวนคดีคิระ เขาก็พยายามหาทางฆ่าแอล อีกด้านหนึ่ง อากาเนะ มิสะ ได้ถูกโจรไล่ตามฆ่า แต่ทันใดนั้น โจรคนนั้นก็ล้มตายลงเพราะอาการหัวใจวาย แล้วสมุดเดทโน้ตเล่มที่ 2 ก็ตกลงมา เมื่อมิสะได้หยิบสมุดเดทโน้ตเล่มนั้นขึ้นมา เธอก็เห็นเรม (ยมทูตของมิสะ) แล้วมิสะก็แลกดวงตายมทูตกับเรม แล้วตั้งตัวขึ้นมาเป็นคิระคนที่ 2 แล้วอัดเทปส่งให้ทางสถานีซากุระให้ฉายไปทั่วญี่ปุ่น มีตอนหนึ่ง เทปในนั้นได้บอกว่า หากคุณเป็นคิระ โปรดมาหาฉันที่สถานีซากุระด่วนด้วย ไลท์จึงอ้างว่าจะไปช่วยซายุให้พ้นจากอันตราย แล้วก็ไปกับยางามิ โซอิจิโร่ (พ่อของไลท์) พอไปถึง มิสะก็ใช้ดวงตายมทูตมองคนแล้วคนเล่า จนกระทั่งเจอกับยางามิ ไลท์
เมื่อมิสะมองไป ก็ไม่เห็นอายุขัยของไลท์ (ดวงตายมทูต สามารถมองเห็นชื่อและอายุขัยของคนได้ แต่จะไม่สามารถเห็นอายุขัยของคนที่ครอบครองเดทโน้ตได้) เธอจึงรีบหาข้อมูลจากมหาวิทยาลัยที่ไลท์เรียนอยู่ แล้วไปที่บ้านไลท์ ไลท์รู้ว่าหากใช้มิสะช่วยในการหาชื่อจริงของแอล แล้วตัวเขาเองจะสามารถฆ่าแอลได้ ส่วนทางมิสะก็ไม่ขัดขืนอยู่แล้ว เพราะเธอหลงรักไลท์ตั้งแต่ตอนที่เจอกันที่สถานี เรมบอกไลท์ไว้ว่าหากไลท์ทำให้มิสะตกอยู่ในอันตรายเมื่อไร เขาจะลงมือฆ่าไลท์ด้วยตัวของเขาเอง ไลท์จึงยอมเป็นแฟนกับมิสะ และจะพาเธอไปพบกับริวซากิให้เร็วที่สุด เช้าวันหนึ่ง แอลได้มาหาไลท์ขณะที่ไลท์เรียนอยู่ แล้วก็บอกว่า ชั้นจะติดตามนายไปตลอด จนกว่าชั้นจะแน่ใจว่านายไม่ใช่คิระ พอไลท์พาแอลมาข้างนอก มิสะก็มาเห็นไลท์พอดี จึงเดินมาหาไลท์ แล้วก็เปิดหน้ากากของแอลออก แล้วมิสะมิสะก็มองด้วยสีหน้าแปลกๆ แล้วถามว่าชื่อริวซากิหรอ แล้วแอลก็นำหน้ากากคืนมาแล้วก็ใส่ไว้ด้านข้าง แล้วผู้คนก็แห่กันมาดูมิสะมิสะ แล้วพอเธอจากไป แอลก็เดินออกไป แล้วไลท์ก็โทรหามิสะมิสะ แต่เสียงของคนที่รับก็คือเสียงของริวซากิ แล้วไลท์ก็เดินมาหาแอล แล้วแย่งมือถือของมิสะมาไว้ในมือทันใดนั้น ทางตำรวจสืบสวนคดีคิระ ได้โทรมาแจ้งแอลว่า ได้จับตัวมิสะมัดมือมัดเท้าปิดตาขังในห้องควบคุมตัวเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากแอลเป็นคนสงสัยว่า มิสะมิสะคือคิระคนที่ 2 และคิระคนที่ 2 สามารถฆ่าคนได้โดยการมองเห็นหน้าตา
หลังเลิกเรียน ไลท์รีบกลับไปบ้านแล้วได้พบกับเรม เพราะเรมขอให้มิสะมิสะถอนตัวจากการเป็นผู้ครอบครองเดธโน้ต แล้วเรมก็ต้องการที่จะฆ่าไลท์ แต่ไลท์บอกว่าหากเรมฆ่าตัวเขา แล้วมิสะรู้เข้า เธออาจจะเสียใจจนฆ่าตัวตายตามเลยก็ได้ เรมนิ่งเงียบไปสักพัก เรมจึงเล่าให้ไลท์ฟังว่า…เมื่อก่อน มียมทูตตนหนึ่งชื่อว่าเจรัซ เขาเฝ้ามองมิสะจากยมโลกลงมาทุกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งชะตาของเธอใกล้จะถึงฆาต เจรัซจึงฆ่าคนที่จะทำร้ายมิสะมิสะด้วยเดทโน้ต แต่นั่นเป็นการยืดอายุขัยให้กับมิสะ ซึ่งนั่นเป็นการฝ่าฝืนกฎของยมทูต เจรัซจึงสลายกลายเป็นทรายไป แล้วก็มอบหน้าที่ให้เรมดูแลมิสะต่อไป แล้วไลท์ก็บอกว่า ถ้านายฆ่าชั้น เพื่อยืดอายุขัยให้กับมิสะ นายก็ต้องตายนี่ เรมบอกว่า ชั้นยอมตายได้ เพื่อมิสะมิสะ แล้วไลท์ก็บอกว่า การช่วยคนๆ นึงน่ะ มันต้องใช้เวลา แล้วไลท์ก็โทรไปหาริวซากิ แล้วขอให้ตนได้เข้าไปในที่สืบสวนคดีด้วย
หลังจากเรา เว็บดูหนังออนไลน์HD เรื่องนี้จบเราชอบนะแต่ชอบภาคแรกมากกว่านิดนึงความเข้มข้นจากการจบแบบค้างๆ ของภาคแรกนั้น ทำให้ตอนต้นเรื่องของภาคนี้ไม่ต้องเกริ่นอะไีตัวละครสำคัญๆ ที่มีบทบาทเด่นในหนังสือการ์ตูนโผล่ออกมาอีกหลายตัว เช่น มิสะ มิสะ ผู้เทิดทูน คิระ และเป็น คิระ คนที่ 2 ยมทูต เรม ผู้ถือ Death Note เล่มที่ 2 และเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ ไลท์ และ มิสะ พ้นจากข้อกล่าวหา ด้านเรื่องและบทสรุปเราไม่ติดนะมันก็ดีในระดับหนึ่ง นักแสดงก็ยังคงดีเหมือนเดิม ด้าน Production ก็ยังโหดมากๆ ในยุคนั้น มุมกล้อง Mood and Tone การตัดต่อ ดีหมดเลยที่โดดเด่นคือ CGI เหมือนแนะนำครับยิ่งดูต่อกันสองภาคยิ่งน่าจะสนุกมากๆ แนะนำให้ดูกัน
More Stories
Flipped | หวานนักวันรักแรก (2010)
Mary Is Happy Mary Is Happy | แมรี่ อิส แฮปปี้ (2013)
London Sweeties | รักไม่เป็นภาษา (2019)